น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว
น้ำมันรำข้าวจมูกข้าวสกัดจากธรรมชาติ ไร้สารเจือปน
ü ต้านมะเร็ง อัมพฤกษ์-อัมพาต
ü โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิต
ü มีบุตรยาก เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ มดลูกแข็งแรง-กระชับ
ü คอเลสเตอรอล เส้นเลือดตีบ
ü อัลไซเมอร์ ความจำเสื่อม
ü พาร์กินสัน ธาลัสซีเมีย
ü ฟื้นฟูสุขภาพ ชะลอความชรา
ü บำรุงสมอง บำรุงร่างกาย
ü ลดน้ำหนัก ได้ 10-15 กก. ภายใน 3 เดือน ทำให้คุณมีรูปร่างเพรียวสมส่วน
ü ลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด
ü ลดอาการปวดหลัง
ü ลดระดับ LDL คอเลสเตอรอล ซึ่งก่อให้เกิดโทษต่อร่างกาย
ü เพิ่มระดับ HDL คอเลสเตอรอล ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย
ü ความดันโลหิตลดลง และลดระดับน้ำตาลในเลือด
ü บำรุงสมอง ป้องกันภาวะเสื่อมของสมองและความจำ
ü ช่วยให้ผิวหนังสดใส
ü ช่วยอาการผิดปกติของชาย, หญิง วัยเจริญพันธุ์ และวัยทอง
ü ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อโรคต่าง ๆ และป้องกันการเกิดมะเร็ง
ü ลบเลือนริ้วรอยด่างดำ เหี่ยวย่น ฝ้า และ กระ
ü ลดภาวะท้องผูก ลดภาวะเสี่ยงต่อการเป็นริดสีดวงทวารและมะเร็งลำไส้ใหญ่
ü ช่วยให้นอนหลับสบาย
น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว
เป็นน้ำมันที่ได้จากกระบวนการพิเศษในการสกัดเอาสารสำคัญที่มี
ประโยชน์นานาชนิด ซึ่งมีอยู่ในเยื่อหุ้มเมล็ดข้าว (Seed Membrane Layer) และจมูกข้าว (Rice Germ) จึงอุดมด้วยสารสำคัญทางธรรมชาติ และมีคุณค่าสูงต่อร่างกายหลายชนิด เช่น
• กลุ่มสารฟอสโฟไลฟิด (Phospholipids) เช่น เลซิติน (Lecithin) เซฟฟาลิน (Cephalin) ไลโซเลซิติน (Lysolecithin) ซึ่งมีความสำคัญในการนำไปสร้าง และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของเซลล์ประสาทสมอง และช่วยป้องกันเซลล์ประสาท จากสารที่เป็นพิษและอนุมูลอิสระต่างๆ ช่วยลดความเครียด และช่วยเสริมสร้างในด้านความจำ
• กลุ่มเซราไมด์ (Ceramide) ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของชั้นใต้ผิวหนัง ช่วยทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น การเสริมสร้างเซราไมด์ให้เพียงพอ ทั้งโดยการรับประทานหรือการให้ทางผิวหนังในรูปการทาครีม หรือโลชัน จะช่วยรักษาผิวพรรณให้สดใสเปล่งปลั่ง ปราศจากริ้วรอยย่นก่อนเวลาอันควร นอกจากนี้เซราไมด์ยังมีคุณสมบัติเป็นไวท์เทนเนอร์ (Whitener) ซึ่งสามารถยับยั้งการสังเคราะห์เมลานิน อันเป็นสาเหตุให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำบนผิวพรรณได้ดี และยังเป็นมอยเจอไรเซอร์ (Moisturizer) ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวอีกด้วย
• กลุ่มคอลโทคอล (Tocols) วิตามินอีธรรมชาติ ในรูปของโทโคเฟอรอล(Tocopherol) และโทโคไทรอีนอล (Tocotrienol) มีประโยชน์ต่อร่างกายในการสร้าง และซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ของร่างกายและยังช่วยทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อโรคต่างๆช่วยต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นเหตุสำคัญของการเกิดโรคมะเร็ง
• กลุ่มกรดไขมันไลโนเลอิค (Linoleic Acid) หรือโอเมก้า 6 และกรดไลโนเลอิค (Linoleic Acid) หรือโอเมก้า 3 ที่เป็นกรดไขมันจำเป็น โดยมีอยู่ประมาณ33%
• กลุ่มวิตามิน B - Complex ซึ่งช่วยให้การทำงานของระบบประสาทดีขึ้น
• กลุ่มแกมมา - ออไรซานอล มีฤทธิ์ในการลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ ทำให้ลดการตีบตันของหลอดเลือด เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต และยังมีฤทธิ์ในการลดความเครียด และรักษาอาการผิดปกติของสตรีวัยทอง นอกจากนี้ยังเป็นสารอนุมูลอิสระ และยังป้องกันแสงยูวีได้ เมื่อใช้กินหรือใช้ทา ทำให้ผิวหนังชุ่มชื่นและต้านการอักเสบ สารชนิดนี้มีความปลอดภัยสูงมาก
มหัศจรรย์จากธรรมชาติ น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว
จากผลการศึกษาวิจัยและการประกาศรับรองจากสถาบันต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ในผลิตภัณฑ์น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว เป็นสินค้าเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริงเลยนะคะ เหมาะสำหรับเป็นของขวัญในโอกาสต่างๆให้แก่ผู้ที่เรารัก เช่น คุณพ่อ, คุณแม่ หรือแม้แต่ตัวเราเองค่ะ เพราะเป็นน้ำมันที่อุดมด้วยประโยชน์มากมาย ประกอบไปด้วยสารอาหารสำคัญที่ร่างกายมนุษย์ต้องการ ดังนี้
1.สาร Gamma Oryzanol ที่มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต โดยลดปริมาณคลอเรสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในตับและเลือดเป็นผลให้ความดันโลหิตและน้ำตาลในเลือดลดลง รวมทั้งช่วยลดการอุดตันของหลอดเลือดในสมอง หัวใจ ไต และต่อมลูกหมาก มีผลป้องกันไม่ให้อ้วนขึ้น
2. กลุ่มโทคอล ซึ่งอยู่ในรูปของ โทโคเฟอรอล และโทโคไทรนีนอล ซึ่งอยู่ในวิตามินอี มีคุณสมบัติช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ต่างๆของร่างกายให้แข็งแรงขึ้น เช่น เซลล์ผิว เซลล์เม็ดเลือดและเซลล์สมองในร่างกายมนุษย์ให้แข็งแรงขึ้นและชลอความชราก่อนวัย โดยเป็นสารที่ต้านอนุมูลอิสระเช่นเดียวกัน
3.Phospholipid กรุ๊ป ซึ่งประกอบด้วยสารเลซิติน Lyssolecithin Cephalin ซึ่งช่วยซ่อมแซมเซลล์ต่างๆของประสาทและระบบสมองให้มีความจำดีขึ้น
4.Essential Fatty Acid ซึ่งประกอบด้วยโอเมก้า 6 และโอเมก้า 3 ซึ่งช่วยฟื้นฟูเซลลืสมองได้ดีขึ้น ส่วนโอเมก้า 3 เป็นสารสำคัญที่ฟื้นฟูเซลล์ผิวหนังให้แข็งแรงขึ้น โดยไปช่วยสร้างคอลลาเจนที่ผิวหนังให้ผิวหนังแข็งแรงและสวยงามเปล่งปลั่งขึ้นโดยธรรมชาติ
5. Ceramide (เซราไมด์) จะทำให้ผิวพรรณสวยงามเปล่งปลั่งเช่นกัน ซึ่งปกติจะพบมากในเด็กและจะเห็นว่าผิวพรรณดี อย่างไรก็ตามเมื่อโตขึ้นสารนี้จะเริ่มน้อยลง แต่จะมีมากในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวมาทดแทน
6.อยู่ในรูปแบบวิตามิน B-Complex ซึ่งประกอบด้วยสารเมลาโทนิน ที่ช่วยในการนอนหลับได้เป็นอย่างดี
และแคลเซียมก็ช่วยซ่อมแซมเซลลืที่สำคัญๆได้อย่างดี เช่น เซลล์ของเส้นผมและเล็บ ให้แข็งแรงและงอกงามขึ้นด้วยเช่นกัน
ซึ่งสารสำคัญที่มีอยู่มากมายนั้นจะถูกทำลายโดยกรรมวิธีในการสกัดน้ำมันค่ะ อย่างเช่น ในน้ำมันรำข้าวแบบขวดสำหรับปรุงอาหาร ซึ่งเป็นน้ำมันรำข้าวผ่านกรรมวิธี และยิ่งต้องผ่านความร้อนจากการปรุงอาหารด้วยแล้ว สารอาหารก็จะยิ่งลดลงมากค่ะดังนั้นหากจะคงคุณค่าต่างๆเหล่านี้ไว้ต้องเป็นน้ำมันที่สกัดด้วยวิธีการพิเศษ จึงทำให้สารที่มีความสำคัญต่างๆยังอยู่ และนอกจากนี้ สารสำคัญหลายตัวนั้น ยังเป็นสารที่พบได้ใน "ข้าวไทยเท่านั้น" อีกด้วยค่ะ
น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว
เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สามารถดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โดย รศ.ดร. สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ คณะบดีคณะแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต และ 1 ใน 12 ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรของสหประชาชาติ ผู้วิจัยน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวจนโด่งดังขายดีมากใน U.S.A. และยุโรป โดยสรุปน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวดูแลสุขภาพ 4 เรื่อง ดังนี้
1. เรื่องเกี่ยวกับสมอง ช่วยลดอาการเครียด ปวดหัว ไมเกรน นอนไม่หลับ ความจำเสื่อม เสริมสร้างเซลล์สอง โดยรับประทานวันละ 4 แคปซูล (เช้า 2 แคปซูล,เย็น 2 แคปซูล) หลังอาหาร ภายใน 1-2 วันจะเห็นผลชัดเจนในเรื่องของความเครียด นอนไม่หลับ
*หากใครทาน 4 แคปซูลต่อวันแล้วมีอาการมืนงง ให้ลดเหลือ 2 แคปซูล เนื่องจากคนๆนั้นตอบสนองต่อน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวดีมากจนเส้นเลือดในสมองขยายตัวมากเกินไป จนเลือดไปเลี้ยงสมองมากเกินไป (แต่จำนวนน้อยมากๆที่มีอาการเช่นนี้)
2. โรคเสื่อม เช่น ไขมันในเส้นเลือด ความดัน เบาหวาน โรคหัวใจ เก๊า อัมพฤต มือเท้าชา อาการวัยทอง ให้ทานวันละ 4 แคปซูล (เช้า 2 แคปซูล, เย็น 2 แคปซูล) หลังอาหารใน 7 วันแรก หากยังไม่เห็นผล ให้เพิ่มเป็น 6 แคปซูลต่อวัน (เช้า,กลางวัน,เย็น)โรคมะเร็งขั้นที่ 1-2 รับประทานเป็น 9 แคปซูลในสัปดาห์ที่ 2
3. โรคอักเสบ เกี่ยวกับข้ออักเสบ ผิวหนังอักเสบ อื่นๆ รับประทานวันละ 4 แคปซูล (เช้า 2 แคปซูล, เย็น 2 แคปซูล) หลังอาหารใน 7 วันแรก หากยังไม่เห็นผล ให้เพิ่มเป็น 6 แคปซูลต่อวัน (เช้า,กลางวัน,เย็น)
4. การต้านอนุมูลอิสระ จะมีความสามารถต้านอนุมูลอิสระดีกว่าพวกน้ำมันตับปลาถึง 60 เท่า ทำให้อาการที่เกิดจากอนุมูลอิสระไปทำลายจนโรคเสื่อมเกิดน้อยลง เช่น หากอนุมูลอิสระไปทำลายเซลล์ตับอ่อน ทำให้การสร้างอินซูลินบกพร่อง จึงเกิดเบาหวาน หากไปทำลายผนังหลอดเลือด ทำให้เกิดรอยแผลที่ผิวหลอดเลือด ทำให้ไขมันไปเกาะง่าย จึงเกิดไขมันอุดตัน
ผลการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันรำข้าวจมูกข้าวแบ่งตามโรค
โรคเครียด นอนไม่หลับ ไมเกรน
1. ภก. ธนะสิทธิ์ เป็นไมเกรน หลังจากรับประทานน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวเช้า 2 แคปซูล เย็น 2 แคปซูล อาการได้หายไปในวันแรก หลังจากนั้น รับประทานต่อเนื่องกันมาเป็นเวลา 3 เดือน ทำให้ไม่รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่ปรากฏอาการของไมเกรนอีก
2. อาจารย์วิทยา (เพชรบูรณ์) เป็นโรคเครียด ทำให้นอนไม่หลับ หลังจากรับประทานน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าววันละ 4 แคปซูลแล้ว อาการดังกล่าวดีขึ้น ทำให้หลับได้ลึก รู้สึกสบายขึ้น รวมทั้งผมยังดกดำขึ้น
3. น้าสาวของคุณประพิมพ์ภัทร์และเพื่อนข้างบ้าน (หาดใหญ่) มักจะปวดหัวเนื่องจากไมเกรนและนอนไม่หลับอยู่เสมอ หลังจากรับประทานน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวเพียงในวันแรก ทำให้หลับสบายขึ้น และหลับได้ลึกขึ้น พอตื่นมา อาการไมเกรนก็ไม่ปรากฏอีก
4. คุณพี (สมุทรสงคราม) หลังจากรับประทานน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวแล้วทำให้นอนหลับสบายมากขึ้น จากก่อนที่เคยเป็นคนนอนไม่หลับ และฝ้าจางลงอย่างเห็นได้ชัดเจน
หน้าเป็นฝ้า กระ
1. คุณศศมน (สมุทรสงคราม) หลังจากรับประทานน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวแล้ว ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ฝ้าลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจนใน 28 วัน
2. คุณพี (สมุทรสงคราม) หลังจากรับประทานน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวแล้วทำให้นอนหลับสบายมากขึ้น จากก่อนที่เคยเป็นคนนอนไม่หลับ และฝ้าจางลงอย่างเห็นได้ชัดเจน
3. คุณภัสสรา (ราชบุรี) หลังจากรับประทานน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวแล้ว ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ฝ้าลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน
4.พี่สุเพ็ญ (สุราษธานี) รับประทานน้ำมันรำข้าววันละ 4 แคปซูล และเจาะน้ำมันออกมาทาหน้าก่อนนอน ฝ้ากระที่ใบหน้าจางหายและดูขาวขึ้น จนคนทักกันทั่ว เมื่อใช้ ASNI เสริมเข้าไปช่วยลบริ้วรอยจนใบหน้าทั้งขาวขึ้นและเด้งขึ้น
5.คุณพรกมล (สมุทรสงคราม) มีปัญหาเรื่องฝ้ากระบนใบหน้ามานานนับ 10 ปี หาหมอมาไม่รู้กี่หมอก็ไม่หาย เมื่อทดลองทานน้ำมันรำข้าวจมูกข้าววันละ 4 แคปซูล พร้อมเจาะน้ำมันมาทาหน้าก่อนนอน ไม่ถึงเดือนฝ้ากระบนใบหน้าจางลงจนตื่นเช้ามาจะไม่พบฝ้ากระบนใบหน้าเลย แถมผลข้างเคียงที่พบคืออาการปวดเมื่อยหลังหายไปด้วย
อาการวัยทอง
1. คุณพร (สิงห์บุรี) มีอาการวัยทอง ประจำเดือนไม่มา 3 เดือน หงุดหงิดง่าย หลังจากรับประทานน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวแล้ว อาการดังกล่าวดีขึ้น อีกทั้งประจำเดือนกลับมาปกติเหมือนเดิม
2.ป้าวิมล ชลบุรี กระดูกเริ่มพรุน ปวดข้อเข่าทานแล้วดีขึ้นจนลดยาได้
อาการปวดเมื่อย อักเสบ โรคเก๊า
1.คุณสวัสดิ์ (พัทยา) เป็นโรคเก๊า ปวดหัวเข่าทั้ง 2 ข้างมากจนต้องใช้ไม้เท้าเดิน หลังจากทานน้ำมันรำข้าวไป 2 สัปดาห์ เช้า 2 กลางวัน 2 เย็น 2 แคปซูล สามารถเดินได้โดยไม่ต้องใช้ไม้เท้า
2.คุณแม่ของเภสัชกรธนะสิทธิ์ มีอาการปวดหัวเข่า งอเข่าไม่ได้ จึงทานน้ำมันรำข้าวจมูกข้าววันละ 4 แคปซูล 3 วัน ไม่ปวดเข่าเลยและนั่งไหว้เจ้าได้ตามปกติ
3.คุณพ่อของคุณหมอพนินทร์ หลังผ่าตัดหัวใจมาแล้วร่างกายไม่แข็งแรง เมื่อทานน้ำมันรำข้าวได้ 1 เดือน ลุกขึ้นมาเดินได้ ปีนโต๊ะหยิบของก็ได้
4.เรือเอกพัดขจร (สัตหีบ) เป็นโรคเก๊า ปวดเข่ามากเมื่อต้องเดินเร็วหรือวิ่ง เมื่อทานน้ำมันรำข้าวได้ 1 เดือน ไม่พบอาการปวดอีกเมื่อวิ่ง
5.คุณมณฑา วงศ์ณาศรี อายุ 53 ปี สุราษฯ ปวดเข่า ตรวจพบกระดูกงอก ทานวันละ 4 แคปซูล ขวดแรกก็ดีขึ้น
6.ป้าสุวคน (กทม.)ปวดเข่าทั้ง 2 ข้าง เมื่อรับประทานน้ำมันรำข้าวจมูกข้าวแล้วอาการปวดลดลงอย่างมาก
โรคไขมันในเลือดสูง ความดัน เบาหวาน
1. คุณย่าของจิราเมศร์ หลังจากรับประทานน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวแล้ว อาการของโรคเบาหวานทุเลาขึ้น แผลเรื้องรังที่มือและเท้าแห้ง สามารถลดปริมาณยาจากเดิมวันละหลายสินเม็ดจนเหลือไม่ถึง 10 เม็ดต่อวัน
2. พี่แป๋ว (กทม.) มีไขมันในเลือดสูงทั้ง Cholesterol , LDL , Triglyceride เมื่อทานน้ำมันรำข้าวจมูกข้าวได้ 3 สัปดาห์ ไปตรวจอีกครั้งกลับปกติทุกอย่าง
3.คุณนงนุช ลำพูน อายุ54 ปี ผอ.โรงเรียนเมืองนาสาร สุราษฯมี Cholesterol สูง มา 3 ปี เส้นเลือดไปเลี้ยงสมองตีบ ความดันสูง เบาหวาน และโรคหัวใจ อยู่มาวันหนึ่งก็อ่อนแรง อาเจียน ส่งโรงพยาบาลก็ไม่ดีขึ้นจึงถูกส่งไปโรงพยาบาลศิริราช ทานไปขวดกว่าๆ เดินได้ปกติ อาการดีขึ้นมากๆ
อัมพฤก อัมพาต กระดุกทับเส้น
1.พี่เขยของพี่ติ๋ว (สุราษฯ)ป่วยเป็นอาการชักเกร็ง ฟันกัดแน่นทานยาไม่ได้ เมื่อเจาะน้ำมันรำข้าวจมูกข้าวหยอดใส่ปาก คืนเดียวสามารถลุกขึ้นมานั่งทานยาได้เอง เพียงไม่กี่วันเดินไปเลือกตั้งได้
2.แมวของพี่พร (นครศรีธรรมราช) เป็นอัมพาตขาหลังทั้ง 2 ข้างใช้งานไม่ได้ หลังจากให้ทานน้ำมันรำข้าวจมูกข้าวไป 10 วัน กลับมาวิ่งได้ สร้างความปิติยินดีให้เจ้าของเป็นอย่างยิ่ง
3. สุนัขของคุณแดง (กรุงเทพฯ) โดนรถชนแล้วกระดูกสันหลังทับเส้นประสาททำให้เป็นอัมพฤตหลังจากรับประทานน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวเช้า 1 แคปซูล เย็น 1 แคปซูล กลับมาวิ่งได้ (แต่ยังไม่สามารถกระโดดขึ้นโซฟาได้เหมือนก่อน)
4.พี่แหม่ม (อ่างทอง) มีอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท หมอให้ผ่าตัด แต่เมื่อทานน้ำมันรำข้าวแล้วไม่ต้องผ่าตัด
5.ลุงจำนงค์(ชลบุรี) เป็นอัมพฤตด้านขวา เดินไม่ได้ ทานน้ำมันรำข้าวจมูกข้าววันละ 6 แคปซูลเพียง 15 วัน ดีขึ้นจนลุกขึ้นเดินได้
6.อ.วิทยา สุขตลอดกาล ตรัง อ.2 C8 แม่เป็นอัมพฤก ปากเบี้ยวพูดไม่ได้เป็นเบาหวานจนต้องตัดขา ทานไปแล้วพูดได้เหมือนเดิม
มะเร็ง
1. พี่ตุ๊ก (กทม.) เป็นมะเร็งมดลูกขั้นที่ 2 ต้องรับการฉายแสง เมื่อรับประทานน้ำมันรำข้าวจมูกข้าวเพียง 2 เดือน อาการดีขึ้นมาก ดูสดใส ไม่ทรมาน ผ่านไป 3 เดือนหมอตรวจไม่พบก้อนเนื้อแล้ว
2.พี่นฤมล (เพชรบุรี)เป็นมะเร็งเต้านมขั้น 4 ลามไปที่กระดูกสันหลัง รับประทานน้ำมันรำข้าวจมูกข้าว วันละ 9 แคปซูล 5 สัปดาห์มะเร็งเล็กลง ผ่านไป 6 เดือน ตรวจหาไม่เจอแล้ว
3.คุณแหม่ม (เชียงใหม่) มีเนื้องอกที่มดลูกยาว 7 เซนติเมตร หลังจากรับประทานน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวแล้ว เนื้อวอกนั้นยุบลง
อื่นๆ
1.พี่อ้อ (ชลบุรี)มีอาการท้องผูกมากต้องทานยาถ่ายเป็นประจำ เมื่อทานน้ำมันรำข้าวจมูกข้าวแล้วค่อยๆลดยาถ่ายลงจนหยุดได้แต่สามารถถ่ายปกติ
2.สามีของพี่พร (กทม.) เพื่อนข้างบ้านพี่วุฒิตา เป็นตับแข็งและมีหินปูนเกาะในสมองจนเบลอไปหมด หมอบอกให้จองวัดได้แล้ว เพียงรับประทานน้ำมันรำข้าวจมูกข้าวไป 1 ขวดกลับเป็นปกติ ส่วนพี่พรเองทานด้วยจนผมที่เคยหงอกกลับดำ
3. พี่เรียม (กทม.) ไทรอยด์เป็นพิษ ตรวจที่คลีนิคมีค่า TSH = 0.01 (ปกติต้อง 0.27-4.2) ตาโปนออกมา ใช้น้ำมันรำข้าวจมูกข้าว 3 เดือน กลับเป็นตาปกติและตรวจค่า TSH = 0.6
4.อาจาร์ยทัศนี สงขลา เป็นต่อมไทรอยด์โต ตัดไปข้างหนึ่งแล้วข้างที่เหลือโตขึ้นมา หลังทานน้ำมันรำข้าวจมูกข้าวแล้วยุบลงกลับเป็นปกติ
5.ดต.โชติวัฒน์ กิ่งแก้ว มาบอมฤต ชุมพร เป็นวัณโรคปอด ให้น้ำเกลือมา 10 กว่าวัน เดินไม่ไหว ทานอาหารไม่ได้มา 15 วันเพราะต่อต้านยาหมอ ทานน้ำมันรำข้าวไป 4วัน (12-16 กันยายน 2549) ทานอาหารได้ เดินได้ปกติ ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
6.คุณพิชญ์สินีย์ ตรัง ปวดประจำเดือนหนักมากมาตลอดชีวิต เป็นลมทุกครั้ง บางครั้งต้องเข้าโรงพยาบาล ลูกสาวคนโตก็เป็นเหมือนกัน ทานน้ำมันรำข้าวได้ 2 เดือน ไม่ปวดอีกเลย
7.คุณวิรัตน์ พิมา ร่อนพิบูลย์ นครศรีธรรมราช เป็นตับอักเสบตั้งแต่ปี 2529 อาเจียนเป็นเลือด ทานไป 4 กระปุก ไปตรวจตับพบว่าเหลือแผลนิดเดียว อาการก็ดีขึ้นมาก
8.ป้ารเวง อายุ 67 ปี อาชีพโม่แป้ง นครศรีธรรมราช มือชา เวลาห้อยมือเหมือนมีมดไต่เป็นรังๆ ทานวันละ 4 แคปซูล 15 วันหายชา